WassanaJournalist

เก่าไป …..ดี ใหม่ มา……ดี จาก แม่ทัพบูรพาพยัคฆ์ สู่ แม่ทัพ ทหารเสือราชินีฯ ทหารทัพภาค1 เปลี่ยนภาพ แม่ทัพภาค1 ใหม่ ในทำเนียบ ผู้บังคับบัญชา จาก บิ๊กรุ่ง พลเอก ชิษณุพงศ์ รอดศิริ (ตท.26) ที่ขยับเป็น ผช.ผบ.ทบ. สายบูรพาพยัคฆ์ ส่งมอบหน้าที่ ให้ บิ๊กใหญ่ พลโท อมฤต บุญสุยา (ตท.27) แม่ทัพน้อย1 สายทหารเสือฯ ขึ้น แม่ทัพภาค1

สุดซึ้ง!! ”ลูกสาว“ ร้องเพลง“จะขอเป็นข้าฯ รองบาท ทุกชาติไป” เบื้องหน้าพระพักตร์ “กรมสมเด็จพระเทพฯ” งานพระราชทานเพลิงศพ บิดา ขนลุก!! แต่ เอิบอิ่มหัวใจ กันทั้งงาน “ดร.เข็ม เขมจุฑา “ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค8 ลูกสาว”ป๋าอารี สุวรรณจินดา ” ร่วมร้องเพลงถวายฯ และส่ง บิดา ผู้ทุ่มเททำงานถวายฯในโครงการพระราชดำริฯ มาตลอดชีวิต และเป็นผู้คิด พันธุ์ไม้ม่วง สีวันพระราชสมภพ ของ กรมสมเด็จพระเทพฯ และผู้เปี่ยมด้วยความจงรักภักดี สู่สวรรค์ ว่าที่ ร้อยตรี อารี สุวรรณจินดา เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้และระบบนิเวศ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ห้วยทราย เพชรบุรี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ต่อครอบครัว ”สุวรรณจินดา“ ด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีฯ เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ ”ว่าที่ร้อยตรี ดร. อารี สุวรรณจินดา “ป.ม.,ท.ช.,ภ.ป.ร.4 ผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้และระบบนิเวศ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เมื่อ วันอาทิตย์ที่6 ตุลาคม 2567 เวลา17:30นาฬิกา ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาสฯ และเป็น พระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงทอดพระเนตร การขับร้องเพลงเพื่อเป็นการระลึกถึงผู้วายชนม์ พร้อมนำเสนอภาพ พระราชกรณียกิจ ประกอบเพลง เพื่อรำลึกถึง ในหลวงรัชกาลที่9 และเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ผ่านบทเพลง “คำพ่อสอน” และ “ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป ” ก่อนพิธีพระราชทานเพลิงศพ โดย ดร.เขมจุฑา สุวรรณจินดา ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค8 ผู้เป็นธิดาผู้วายชนม์ ”อี๊ด นักร้องวงฟลาย“ และ“น้องใบพลู” เยาวชนดีเด่นประจำปี2567 #ดรเข็มไก่ฟ้าวปอ67 #วปอ67 #วปอเพื่อสังคม #วปอรักในหลวง

“ผบ.ทหารสูงสุด” ลงพื้นที่ ช่วยแก้สถานการณ์ รถบัสนักเรียนไฟไหม้

“บิ๊กต้น” กอด เกลอ“แม่ทัพไพศาล” ส่งมอบงาน ผอ.รมน.ภาค4 ไร้รอยต่อ โชว์ปึ๊ก!ต่อหน้ากำลังพล “เดินหน้าสานต่อนโยบายการเสริมสร้างสันติสุข 68 “ พลเอก ศานติ ศกุนตนาค ส่งมอบหน้าที่ ผอ.รมน.ภาค4 ให้พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาค4 คนใหม่

C h a n g e “วปอ.” “ผบ.ทหารสูงสุด” ชำแหละเอง!! หลักสูตร วปอ. 65ปี ถึงเวลา ต้องเปลี่ยนแปลง เริ่มแล้ว จาก วปอ.66 ให้คุ้มค่างบประมาณ ภาษีประชาชน สังคม- ประเทศ ต้องได้ประโยชน์ ไม่ใช่ สังคม อีลีท จากโครงสร้างอำนาจ อีกต่อไป ให้โอกาส คนตัวเล็ก -คนไม่มีเส้น ใช้ คอนเนคชั่น เพื่อสังคม เริ่มจาก โครงการ The Ten มาแล้ว หมดสมัย มารู้จักกัน และเล่นกอล์ฟ กัน เผย มีข้อจำกัด ผู้พิพากษา-อัยการ มาเรียน หวั่น สร้างความปนเปื้อน ในคอนเนคชั่น ชี้ วปอ.ต้อง เป็น Think Tank ให้ ผบ.ทหารสูงสุด มีข้อเสนอ จากการศึกษา ชี้ มีประโยชน์ แต่สังคม ไม่รู้ เพราะเวลา แถลงผลการศึกษา สนับสนุนยุทธศาสตร์ฯ สื่อ ไม่นำเสนอ มีแต่ข่าวว่า นายกฯ พูดอะไร จึง ต้องจัด เสวนา ตบท้าย อีกครั้ง พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวในเวที “Thailand Next: เปลี่ยนใหญ่ประเทศไทย” ซึ่งจัดงานโดยคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 66 พลเอกทรงวิทย์ กล่าวในตอนหนึ่งว่า นักศึกษา วปอ. รุ่น66 นี้ได้ทำ Vision Quest ของตนเองได้เป็นจริง เพราะในแต่ละปีตนเอง จะต้องไปชี้แจงถึงความสำคัญของงบประมาณของ วปอ. จาก ภาษีของประชาชน กับกรรมาธิการ ว่า การนำคน 280 คน มาเรียนในหลักสูตร วปอ. นั้นจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมอย่างไรบ้าง ซึ่งเมื่อก่อนนั้นไม่ค่อย จะมีคำถามมากนัก เพราะว่าเป็นเรื่องของอำนาจ แต่ในวันนี้คนรุ่นใหม่ได้ตั้งคำถามว่า การที่ทำให้คนได้เข้ามาพบเจอกันในหลักสูตร จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไรบ้าง ในตอนเริ่มหลักสูตรรุ่นนี้ ตนเองได้ตั้งโจทย์เอาไว้ 4 ข้อ โดยข้อแรก วปอ. 66 จะต้องเป็น Think Tank ให้ตนเองในเรื่องต่าง ๆ ไม่ขอให้เข้ามาวิพากษ์ หรือบ่นเหมือนรุ่นก่อน ๆ ที่ผ่านมา แต่ตนเองต้องการ Solution ที่จะช่วยสังคมข้ามผ่านมาตรฐานเดิม เช่นการนำพากองทัพ ให้เข้าสู่ความเป็นกองทัพ มืออาชีพ ที่ทำให้ทุกคนที่เข้ามาในกองทัพ มาด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่ถูกเกณฑ์เข้ามา และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย จะต้องทำอย่างไรบ้าง ข้อที่ 2 คือ สังคมได้ตั้งคำถาม โดยเฉพาะในสมัยของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคำถามถึงเรื่องจรรยาบรรณในการมาคบกัน ซึ่งในระหว่างเรียน รุ่น 66 ไม่พบปัญหาเรื่องจรรยาบรรณ แต่หลังจากนี้ รุ่น 66 จะต้องสร้างจรรยาบรรณของตัวเอง เช่นภาคเอกชนจะค้าขายกับทางราชการได้หรือไม่ ข้อที่ 3 คือเมื่อมีความสัมพันธ์ต่อกัน (Networking) ไปแล้วจะเกิดประโยชน์อะไรต่อสังคม ซึ่งในวันนี้ที่ วปอ. 66 ได้แสดงให้เห็นคือวิสัยทัศน์ ที่ได้นำเสนอต่อรัฐบาลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่ไม่ได้นำเสนอในวันนี้ คือ โครงการ The Ten ที่นักศึกษารุ่นนี้ แบ่งออกเป็น 10 หมู่ เพื่อไปช่วยเหลือสังคมจริง ๆ จับต้องได้ และต้องเป็นระยะยาว ซึ่งทั้ง 10 หมู่ได้ลงมือทำไปแล้วใน 10 จังหวัด ซึ่งมีหลายโครงการมาก ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ตนเองภูมิใจมาก ข้อที่ 4 คือการสื่อสารกับสังคม ซึ่งในอดีต เมื่อนักศึกษา วปอ. ไปแถลงผลให้นายกฯ ฟัง สิ่งที่สื่อนำไปนำเสนอคือสิ่งที่นายกฯ พูด ในขณะที่เนื้อหาการนำเสนอของนักศึกษา วปอ. ไม่ถูกนำเสนอ และสูญหายไปเลย ตนเองจึงเสนอให้มีการจัดงานเสวนาอย่างในวันนี้ เพื่อให้คนมาเก็บตกความคิด และทั้ง 4 ข้อข้างต้นนี้ จะถูกนำไปใช้กับนักศึกษา วปอ. รุ่นต่อไป

นี่ล่ะ ”บิ๊กปู“ผบ.ทบ.คนใหม่ . ภารกิจแรก หลังรับหน้าที่ ผบ.ทบ. “บิ๊กปู“ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ เนียน!! ลุยโคลนดิน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ กำลังพล ทบ. ที่ช่วยฟื้นฟู แม่สาย เชียงราย หลังน้ำท่วมลด เวลาทานข้าว ไม่มีแม้แต่ที่นั่งกิน และกินข้าวกล่อง เหมือนกำลังพล ใครเห็นผ่านๆตาไป อาจไม่นึกว่า นี่คือ ผบ.ทบ. คนใหม่ สายวงศ์เทวัญคอแดง ที่จะนั่งนาน 3 ปี เก้าอี้ มั่นคง อำนาจแข็งแกร่ง

นายกฯ ยัง ไม่พร้อมมีเรื่อง พร้อมคุย “สนธิ ลิ้มฯ” อยากให้บ้านเมืองสงบ เผยแค่ทำงานมา เดือนเดียว จะไล่แล้วเหรอ? ส่วนจะ เหตุเพราะนามสกุล “ชินวัตร” หรือไม่ นายกฯ เผย แต่งงาน ปี2019 ตอนนั้น ไม่ได้เปลี่ยนนามสกุล

ที่ๆ ผบ.ทบ.ควรอยู่ ในเวลานี้ “บิ๊กปู”ประเดิม เก้าอี้ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ จ.เชียงราย เยี่ยมกำลังพล ติดตามการฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วมโคลนถล่ม ย้ำ ความปลอดภัย ตั้ง ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยส่วนหน้า พร้อมมอบเงินช่วยเหลือกำลังพล ผู้ประสบภัย ในค่ายเม็งรายมหาราช “เจ้ากรมเจี๊ยบ” ปักหลัก แนวหน้า . พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก นำคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบเหตุอุทกภัยที่ จ.เชียงราย ที่ได้รุดเข้าช่วยเหลือประชาชนในทันทีที่เกิดเหตุ ตั้งแต่ 9 ก.ย.67 ที่ผ่านมา ทั้งกำลังพลที่เป็นหน่วยทหารในพื้นที่ และกำลังเพิ่มเติมจากหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 และกรมการทหารช่าง ที่ได้นำเครื่องมือและยุทโธปกรณ์ต่างๆ ร่วมสนับสนุนการช่วยเหลือ รวมกว่า 600 นาย โดยมี พลโท สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมทหารช่าง บัญขาการในพื้นที่ พลเอก พนา ติดตามการปฏิบัติงานของกำลังพลในส่วนต่างๆ อย่างใกล้ชิด ได้แก่ การกู้คืนและซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ชุมชนเหมืองแดง และชุมชนบ้านไม้ลุงขน (ซอยอีก้อ), การกู้คืนและซ่อมแซมโรงเรียนบ้านไม้ลุงขน, การวางบิ๊กแบ็คซ่อมแซมพนังกั้นน้ำแม่สายที่ได้รับความเสียหาย ป้องกันการเกิดเหตุอุทกภัยซ้ำ และการจัดตั้งจุดจ่ายน้ำประปาสนามบริการประชาชนในพื้นที่ชุมชนเกาะทราย รวมทั้งได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันพร้อมกับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ และให้กำลังใจประชาชนที่ร่วมฟื้นฟูบ้านเรือน ก่อนเดินทางไปตรวจสอบและเยี่ยมบ้านพักกำลังพลที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเช่นเดียวกันในพื้นที่ค่ายเม็งรายมหาราช พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจให้กำลังพลและครอบครัว ปัจจุบัน รัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ปฎิบัติการส่วนหน้า ( ศปช.ส่วนหน้า ) เพื่อเป็นศูนย์สั่งการและบูรณาการร่วมของภาคส่วนต่างๆ ในการคลี่คลายสถานการณ์นั้น กองทัพบกได้จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยส่วนหน้า ร่วมติดตามการทำงานและประสานการปฏิบัติดังกล่าว โดยนำศักยภาพของกำลังพล เครื่องมือและยุทโธปกรณ์ของหน่วยทหาร โดยเฉพาะชุดช่าง ร่วมกับศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน, ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานภาค 3 และหน่วยงานราชการต่างๆ เข้าบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนและฟื้นฟูพื้นที่ให้ประชาชน ตามที่ได้รับการแบ่งมอบพื้นที่จากทาง ศปช.ส่วนหน้า ทั้งการเร่งฟื้นฟูระบบจ่ายน้ำประปา และนำชุดประปาสนามออกบริการแจกจ่ายน้ำให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวม 3 แห่ง ซึ่งปัจจุบันจะยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าระบบประปาในพื้นที่สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ การฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุ รวม 48 หลัง ดำเนินการเสร็จสิ้น 100% รวมทั้งการช่วยเหลือฟื้นฟูบ้านพักอาศัยที่เจ้าของบ้านสามารถช่วยเหลือตนเองได้ จำนวน 6,980 หลัง เสร็จแล้ว 6,289 หลัง คงเหลือ 691 หลัง การฟื้นคืนแหล่งชุมชน อาคารสถานที่ และเส้นทางสัญจรต่างๆ ทั้งสายหลักและสายรอง 24 เส้นทาง ระยะทาง 10.15 กิโลเมตร พลเอก พนา กล่าวให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยขอขอบคุณทุกการปฏิบัติเพื่อดูแลประชาชน บรรเทาภัยพิบัติและคลี่คลายสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ แม้ว่าตนและครอบครัวก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน พลเอก พนา ได้รับทราบและติดตามการปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง ขอให้ทุกหน่วยที่ได้รับการแบ่งมอบภารกิจในครั้งนี้ เร่งฟื้นฟูพื้นที่และดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อคืนพื้นที่ให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ขณะเดียวได้เน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย เนื่องด้วยในพื้นที่มีความเสี่ยงทั้งเศษวัสดุต่างๆ ของบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย หรือวัตถุที่ลอยมากับมวลน้ำ โดยขอให้กำลังพลมีความระมัดระวัง สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ อย่างเหมาะสมและคล่องตัว

ไม่บังอาจเป็น “พี่เลี้ยง” นายกฯ "บิ๊กอ้วน“อวยด้วยใจ ”นายกฯอิ๊งค์“ ดีเลิศ ทำงานมาไม่ถึงเดือน เจอแต่เรื่องหนักๆ เป็นตัวของตัวเอง ปัด สวมบท “พี่เลี้ยงนายกฯ” ลั่น ไม่บังอาจ เพราะเป็น ผู้ใต้บังคับบัญชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตอบคำถาม ที่ถูกมองว่า เป็น “พี่เลี้ยงนายกฯ” ว่า ผมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา จะเป็นพี่เลี้ยงได้ยังไง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีศักยภาพในตัวเอง เข้ามาไม่ถึงเดือน ก็รับเรื่องหนัก และรับมือได้เป็นอย่างดี ได้พิสูจน์ศักยภาพการเป็นผู้นำแล้ว ขอให้เชื่อมั่นในตัวนายกฯ หากจะคิดแค่ว่า นายกฯไม่มีความสามารถ หรือคิดไปต่างๆ นานา มีแต่จะบั่นทอนความเชื่อมั่นของประเทศ อย่าไปคิดว่าใคร จะเป็นพี่เลี้ยงใคร ผมไม่บังอาจ ท่านเป็นตัวของตัวเอง อย่า ต้องให้เวลาท่าน ขอให้รอดูต่อไป“ เมื่อถามว่า ให้คะแนนนายกฯ เท่าไหร่นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับใจ ผม ก็ต้องถือว่า ดีเลิศ”

“บิ๊กปู” สานต่อประเพณี คอแดง นำนายพล ทบ. กล่าว คาถามหาจักรี ถวายบังคม ถวายสัตย์ปฏิญาณตนฯ หลังเลื่อนยศ ตำแหน่ง ลั่น ต้องยืนหยัดด้วยเกียรติ ศักดิ์ศรี ทบ.สถาบันที่เป็นรากฐานด้านความมั่นคงของชาติ ยึดมั่นอุดมการณ์ ยันจะ สร้างกองทัพ เข้มแข็งมีขีดความสามารถ ชี้ พระราชทานยศสูงขึ้น พร้อม ภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น ตระหนักหน้าที่ต่อชาติบ้านเมือง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก คนใหม่ เป็นประธานในพิธีแสดงความยินดีกับนายทหารสัญญาบัตรชั้นนายพลสังกัดกองทัพบกที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้นตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยศทหารชั้นนายพล ให้แก่นายทหารสัญญาบัตร สังกัดกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 และพระราชทานยศทหารชั้นนายพลเป็นกรณีพิเศษ ให้แก่นายทหารสัญญาบัตรที่ลาออกจากราชการตามโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีนายทหารสัญญาบัตรสังกัดกองทัพบกที่ได้รับพระราชทานเลื่อนยศสูงขึ้น รวม 256 นาย ทั้ง ชั้นยศ พลเอก 19 นาย พลโท 49 นาย และพลตรี 188 นาย ซึ่งทุกนายได้ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะอุตสาหะ และเป็นกำลังสำคัญของกองทัพบกในการปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคงตลอดมา พลเอก พนา ได้กล่าวแสดงความยินดีแก่นายทหารสัญญาบัตรชั้นนายพลที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น ว่า การที่กองทัพบก สามารถยืนหยัดด้วยเกียรติ ศักดิ์ศรี และได้รับการยอมรับเป็นสถาบันที่เป็นรากฐานด้านความมั่นคงของชาติตลอดมานั้น ทุกท่านมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ได้ปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยยึดมั่นอุดมการณ์ในการสร้างสรรค์คุณประโยชน์ให้กับส่วนรวมและประเทศชาติ ตลอดจนทำให้กองทัพมีความเข้มแข็งมีขีดความสามารถในการดำเนินภารกิจทุกด้านให้บรรลุผลสำเร็จ การได้รับพระราชทานยศสูงขึ้นนั้นมาพร้อมกับภาระหน้าที่และความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งย้ำเตือนให้ทุกท่านตระหนักในหน้าที่ต่อชาติบ้านเมือง ขอให้ใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ดำเนินภารกิจให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมปรับตัวและพัฒนาตนเองอย่างรอบด้านให้สามารถรองรับภารกิจภายใต้สถานการณ์และสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน จะต้องประพฤติปฏิบัติตนให้สมเกียรติในการเป็นทหาร เป็นผู้นำ และเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ใต้บังคับบัญชา ยึดหลักธรรมาภิบาลในการปกครอง พร้อมเสริมสร้างขีดความสามารถของหน่วยและกองทัพบก มีพลังกาย พลังใจ พิทักษ์ปกป้องราชบัลลังก์ คุ้มครองประชาชน พัฒนากองทัพและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าและมั่นคงสงบสุขตลอดไป ผบ.ทบ. ได้นำคณะนายทหารชั้นนายพลที่ได้รับพระราชทานชั้นยศสูงขึ้นกระทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ อันนำมาซึ่งเกียรติยศและความภาคภูมิใจ และได้ร่วมกันถวายสัตย์ปฏิญาณตนแสดงความจงรักภักดี พร้อมอุทิศตน เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องและรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติ เทิดทูนและรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์ และธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของทหาร ทั้งนี้การจัดพิธีแสดงความยินดีกับนายทหารชั้นนายพลที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้นและพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนโดยพร้อมเพรียงกันในวันนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีของนายทหารชั้นนายพลทุกนายที่ได้ร่วมกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ เป็นขวัญและกำลังใจที่สำคัญในการมุ่งมั่นทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

“เนวิน” พี่ใหญ่ ผู้ไม่มีวันพ่ายแพ้ “อนุทิน” ถือมาลัย นำอวยพร วันเกิด 66 ปี “เนวิน ชิดชอบ” พี่ใหญ่ “ภูมิใจไทย” “เนวิน” บอกหมอปะกำช้าง ผูกข้อมือ “อนุทิน ”ให้เป็นนายกฯ “ยิ่งใหญ่ แข็งแรง” “เสี่ยหนู” รีบ บอก เป็นนายกฯอยู่ แต่เป็นนายกสมาคม ”เกลียมัว“ ออกตัว เป็นรองฯ ทำงานให้ ”นายกฯอิ๊งค์“ ”บิ๊กแป๊ะ- เสธ.หิมาลัย” โผล่ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำบุญ วันเกิด ครบ 66 ปี ที่ บุรีรัมย์ คาสเซิล โดยมีแกนนำพรรคภูมิใจไทย และ สส. นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, พล.ต.อ.เพิ่มพูน​ ชิดชอบ​ รมว.ศึกษาธิการ, นายศักดิ์สยาม​ ชิดชอบ​ อดีต รมว.คมนาคม, น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อุดมศึกษา​ฯ น.ส.ซาบีดา​ ไทยเศรษฐ์​ รมช.มหาดไทย​ พล.ต.อ.จักรทิพย์​ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร.​ ดร.หิมาลัย​ ผิวพรรณ​ ที่ปรึกษานายพีระ​พันธุ์​ สาลี​รัฐ​วิภาค​ โดย มีพิธีปะกำช้าง ซึ่งเป็นพิธีที่ตระกูลชิดชอบ ได้มีการสืบทอดมายาวนาน​ และพิธีผูกข้อมือเรียกขวัญ เพื่อขอพรจากครูปะกำ​ หลังจากที่ครูปะกำ​ ได้ผูกข้อมือให้นายเนวิน แล้วเสร็จ​ นายเนวิน ได้หันมาบอกครูปะกำให้ผูกข้อมือ​ให้​นายอนุทินด้วย​ ก่อนที่จะกล่าวด้วยเสียงดังว่า "ผูกให้เป็นนายกฯ​ ผูกให้ยิ่งใหญ่​ ผูกให้แข็งแรง" ​ นายอนุทิน​ ได้ผูกข้อมือให้นายเนวินอีกด้วย โดยอวยพรให้แข็งแรง​ และขอให้สมหวัง​ นายอนุทิน กล่าวกับสื่อว่า นายกฯ เป็นตลอดอยู่แล้ว ไม่มีใครแย่ง คือ “นายกฯ สมาคมเกลียมัว​“ แห่งประเทศไทย ยังไม่เคยมีใครชิงตำแหน่งนี้จากผมไปได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แล้วในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น นายอนุทิน ระบุว่า อันนั้นยังไม่คิด ตอนนี้ขอเป็นรัฐมนตรี ทำหน้าที่ให้ดีก่อน ขอเป็นรองนายกรัฐมนตรี ทำงานให้ น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประสบความสำเร็จให้รัฐบาล ให้รัฐบาลของท่านมีแต่ความก้าวหน้า ทำประโยชน์ให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด

“ยศ มีไว้เพื่อทำงาน แต่คุณค่าของทหารคือความเท่าเทียม” . ไม่ใช่ แค่ หล่อ สมาร์ท แบบ ทหารดารา แต่ “เสธ.โน๊ต” ยังมีความสามารถ แบบทหาร จนขึ้น เป็น ผอ.กองฯ ผ่านการแถลงข่าว และตอบคำถามสื่อ ได้ดี ที่สำคัญ เป็นสายเลือดทหาร ครอบครัวทหาร ที่ทำให้ เขา ตัดสินใจมาเป็นทหาร สอบเข้า รร.นายเรืออากาศ และ มาเป็นทีม โฆษก ทัพไทย หลายสมัย “เสธ.โน๊ต” นาวาอากาศเอก จงเจต วัชรานันท์ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ผู้ซึ่งมีพื้นฐานมาจากครอบครัวที่รับราชการทหารและตำรวจ ปลูกฝังให้ให้มีความเสียสละ และความรักในชาติ ศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมั่นคง ในบทบาทของทีมโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย มุ่งหวังการสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน ผ่านการสื่อสารข้อเท็จจริงจากกองทัพอย่างรวดเร็วและชัดเจน ปัจจุบัน กองทัพไทยได้เปิดโอกาสให้กำลังพลจากทุกเพศ และทุกชั้นยศเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นอย่างเท่าเทียม กำลังพลแต่ละคนในกองทัพมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนล้วนมีคุณค่าในงานที่ทำ เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคงและดูแลประชาชน จึงขอย้ำคำกล่าวที่ว่า “ยศมีไว้เพื่อทำงาน แต่คุณค่าของทหารคือความเท่าเทียม” นอกจากนี้ กองทัพไทยมีความร่วมมือในการทำงานเป็นทีมเดียวกันภายใต้แนวคิด "One Team ทัพไทย" เพื่อให้เกิดการปฏิบัติงานร่วมกันอย่างเป็นหนึ่งเดียวและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคงและช่วยประชาชน #ทีมโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย #oneteamทัพไทย

บ้านเสือป่าฯ จริงใจ ร่วม OneTeamทัพไทย ร่วมทีม เสือป่า ยูไนเต็ด “ผบ.อ๊อบ” ปลอบใจ นายพล ผู้ไกลบ้าน ต้องย้ายจากเหล่าทัพกำเนิด มาอยู่ ทัพไทย “รองวิน-รองหยอย-รองเสธ.ปั้น” ชี้ ท่านจะสัมผัสได้ถึง “ความจริงใจ” และความเอาใจใส่ ซึ่งกันและกัน พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีรายงานตัวเข้ารับราชการของนายทหารสัญญาบัตร ชั้นยศนายพลที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ปรับย้ายมารับราชการในกองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน 25 นาย ณ ห้องรับรอง 12 กองบัญชาการกองทัพไทย และพิธีถวายคำสัตย์ปฏิญาณเพื่อประพฤติปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ดี โดยมึนายทหารสัญญาบัตรชั้นนายพลที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้รับราชการในกองบัญชาการกองทัพไทย ได้แก่ พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอก ไพบูลย์ วรวรรณปรีชา รองเสนาธิการทหาร พลอากาศเอก ธรรมรงค์เดช เจริญสุข รองเสนาธิการทหาร

ดูมาด “นายกฯแพทองธาร” หารือทวิภาคีผู้นำต่างประเทศ ในการประชุม ACD สวมชุดผ้าไทย หารือ การ์ต้าร์-อิหร่าน-คูเวต -ทาจิกิสถาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทวิภาคีกับผู้นำระหว่างประเทศ ในห้วงการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 (3rd Asia Cooperation Dialogue Summit: ACD) ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี สรุปว่า มีการหารือทวิภาคีกับ นายมัสอูด เปเซชกียาน (Masoud Pezeshkian) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน นายกรัฐมนตรียืนยันความพร้อมของประเทศไทยที่จะร่วมมือกับสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ซึ่งในปี 2568 จะเป็นวาระฉลองครบรอบ 70 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย อิหร่าน โดยนายกรัฐมนตรีมุ่งหวังที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และเสนอแนวทางที่จะร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองวาระที่สำคัญนี้ในปีหน้า อาทิ ด้านวัฒนธรรมและด้านกีฬา พร้อมกล่าวเชิญประธานาธิบดีอิหร่านเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยด้านประธานาธิบดีอิหร่าน ระบุว่า อิหร่านพร้อมให้ความร่วมมือกับไทยในด้านที่มีศักยภาพร่วมกัน และได้หยิบยกกรณีสถานการณ์ในกาซา – เลบานอน และขอให้ไทยให้การสนับสนุนสันติภาพให้เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไทยพร้อมสนับสนุนสันติภาพร่วมกันในตะวันออกกลาง โดยเชื่อมั่นว่าเวที ACD นี้ จะเป็นอีกโอกาสสำคัญที่ได้รวบรวมผู้นำทุกฝ่ายที่จะสามารถสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในโลกได้ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณนายมัสอูด เปเซชกียาน (Masoud Pezeshkian) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ในการช่วยเหลือเจรจา ปล่อยตัวประกันคนไทย ในช่วงเวลาที่ผ่านมาและขอให้สนับสนุนการเจรจาช่วยเหลือปล่อยตัวประกันคนไทยจำนวน 6 คนเพิ่มเติมด้วย จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เข้าหารือทวิภาคีกับ เชค มุฮัมมัด บิน อับดุรเราะฮ์มาน บิน ญาสซิม อาล ษานี (His Excellency Sheikh Mohammed bin Abdulrahman bin Jassim Al-Thani) นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัฐกาตาร์ โดยนายกรัฐมนตรีกาตาร์ กล่าวแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีสุภาพสตรีที่อายุน้อยที่สุดที่เดินทางมาเยือนกาตาร์ เชื่อมั่นในความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี ซึ่งกาตาร์พร้อมขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาศักยภาพร่วมกัน และพร้อมที่จะร่วมมือด้านหุ้นส่วนทางเทคโนโลยี การศึกษา เพื่อพัฒนาทั้งสองประเทศให้ดียิ่งขึ้น “ฝ่ายกาตาร์เห็นความสำคัญของการพัฒนา AI Application โดยมองว่าจะมีบทบาทเป็น game changer ในอนาคตอันใกล้ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีไทยได้กล่าวถึงจุดเด่นของไทย ซึ่งมีความพร้อมในการเป็น Food stocksให้กับกาตาร์โดยฝ่ายกาตาร์ตอบรับด้วยความยินดี ” นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณฝ่ายกาตาร์ที่มีส่วนในการไกลเกลี่ยให้การปล่อยตัวประกันไทย และขอให้กาตาร์ช่วยเจรจาเพื่อการปล่อยตัวเพิ่มเติม จากนั้นนายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ เชค ตะมีม บินฮะมัด อาล ษานี (His Highness Sheikh Tamim bin Hamad Al-Thani) เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์โดยเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทย โดยได้กล่าวว่า ไทยและกาตาร์มีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม excellent relationship ระหว่างกัน ชาวกาตาร์เดินทางเยือนไทยจำนวนมาก เนื่องจากไทยมีจุดเด่นด้านท่องเที่ยวเพื่อการรักษาพยาบาล (Health Tourism) ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า ไทยพร้อมที่จะริเริ่มความร่วมมือใหม่ๆกับกาตาร์ อาทิ ด้านซอฟพาวเวอร์ ความร่วมมือด้านบุคลากร เพื่อ up-skill re-skill บุคลากรไทยเพื่อรองรับความสามารถในการแข่งขันต่าง ๆ พร้อมกันนี้ เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ได้กล่าวถึง AI Application และทรงเห็นว่าประเทศขนาดกลางควรจะมีความร่วมมือด้าน AI เพื่อเสริมศักยภาพ ร่วมกัน โดยในโอกาสนี้ ได้กล่าวว่า กาตาร์พร้อมร่วมมือกับรัฐบาลไทยในทุก ๆ ความร่วมมือ (any kind of corporations) ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยได้กล่าวถึงความพร้อมของไทยในการเป็น Food stocks พร้อมได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสานต่อความร่วมมือต่อไป จากนั้น นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้เข้าหารือทวิภาคีกับ นายเอมอมาลี เราะห์มาน (H.E. Mr. Emomali Rahmon) ประธานาธิบดีเเห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถาน โดยประธานาธิบดีทาจิกิสถาน ชื่นชมนายกรัฐมนตรีพร้อมอวยพรให้นายกรัฐมนตรีประสบความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจนายกรัฐมนตรี ซึ่งไทยเเละทาจิกิสถานจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ ความร่วมมือ ที่อบอุ่นเเละจริงใจต่อกัน โดยประธานาธิบดีได้กล่าวว่า ชื่นชอบประเทศไทยเป็นการส่วนตัว เคยเดินทางมาท่องเที่ยวทะเลที่ภาคใต้ของไทย เพราะเป็นประเทศที่สวยงาม มี Landscape ที่สวยงาม มีอาหาร ผลไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารซีฟู้ด เนื่องจากทาจิกิสถานไม่มีทางออกทะเล รวมทั้ง มีผู้คนที่น่าประทับใจ ทำใ

“ชัยเสรี”ไปไกล ขายรถยานเกราะล้อยาง First Win 4x4 รถเกราะพันธุ์ไทย 100 คัน ให้ ทบ.ปากีสถาน พร้อม ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต ให้ HIT องค์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ กองทัพบกปากีสถาน . . พันเอก ทนาย เพิ่มพูล รักษาการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารไทย ประจำกรุงอิสลามาบัด และ พลตรี Atique Ahmed Director General Technical Heavy Industry Taxila (HIT) เป็นสักขีพยานในการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่าง นายกานต์ กุลหิรัญ ผู้แทน บริษัท ไทยดีเฟนส์อินดัสตรี จำกัด: Thai Defence Industry (TDI) กับ พันเอก (เกษียณ) Ajmal Rafique Chief Executive Officer, Margalla Heavy Industries Limited, HIT โดยมี นาย Rashid Zahoor และนาย Waqar Iqbal ผู้แทน บริษัท Paradigm Technologies International ซึ่งเป็นหุ้นส่วนฝ่ายปากีสถาน ร่วมเป็นสักขีพยาน บริษัท ไทยดีเฟนส์อินดัสตรี จำกัด (TDI) บรรลุข้อตกลงในการขายรถยานเกราะล้อยาง First Win (FW 4x4) จำนวน 100 คัน พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้กับ HIT ณ HIT, เมืองตักศิลา จังหวัดปัญจาบ สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน จากนั้นได้เยี่ยมชม Heavy Rebuild Factory M-Series โดยมี พันเอก Muhammad Haroon Aslam (MD) Heavy Rebuild Factory M-Series นำเยี่ยมชม ทั้งนี้ HIT เป็นองค์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในการกำกับดูแลของ กองทัพบกปากีสถาน มีขีดความสามารถในการผลิตรถถังและยานเกราะให้กับกองทัพปากีสถาน และมิตรประเทศ การบรรลุข้อตกลงในการขายรถยานเกราะล้อยาง First Win (FW 4x4) ในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยียานเกราะของไทย ที่มีประโยชน์ในการพัฒนากองทัพปากีสถาน #ChaiSeri. #FirstWin4x4

#ในหลวง #พระราชินี