คหกรรมสวนดุสิตสุพรรณบุรี

การประดิษฐ์พานไหว้ครู #พานไหว้ครู #พานไหว้ครูสวยงาม วิธีการทำอย่างละเอียดรับชมในช่องยูทูปครับ #คหกรรม #สวนดุสิต #คหกรรมศาสตร์ #คหกรรมอินเตอร์ #โรงเรียนการเรือน #คหกรรมสวนดุสิต #มหาวิทยาลัยสวนดุสิต #คหกรรมศาสตร์สวนดุสิต #คหกรรมสวนดุสิตสุพรรณบุรี #มหาวิทยาลัยสวนดุสิตวิทยาเขตสุพรรณบุรี

#น้ำอบไทยสวนดุสิต #ดินสอพองอบร่ำ #บุหงา เครื่องหอมในประเพณีสงกรานต์ ท่านใดสนใจสามารถสอบถามรายละเอียด ได้ที่สำนักกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร.02-244-5370-5 จากภูมิปัญญาอันล้ำค่าของบรรพบุรุษไทย ส่งผลให้น้ำอบไทยมากคุณค่ายิ่งกว่าความหอม โดยเคียงคู่กับหน้าร้อน เป็นการดับร้อนแบบไทยๆ ที่อยู่คู่ประเพณีวัฒนธรรมไทยแต่โบราณกระทั่งถึงปัจจุบัน หลากหลายตำรับน้ำอบไทย หนึ่งในนั้นคือ น้ำอบไทยสวนดุสิต น้ำอบไทยสวนดุสิตสืบทอดสูตรเฉพาะมาจาก อาจารย์ ม.ร.ว. สอิ้งมาศ นวรัตน์ ผู้สืบสานความรู้การผลิตต่อจาก อาจารย์เยื้อน ภาณุทัต ที่มีสายเชื่อมโยงความรู้อย่างถ่องแท้จากในวังหลวง ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของสวนดุสิตในสมัยที่ยังเป็นโรงเรียนการเรือน และเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้การทำน้ำอบไทย “กลิ่นกระดังงา” ที่เป็นสูตรเฉพาะให้กับนักเรียนในสมัยนั้นสามารถผลิตใช้ และเป็นวิชาชีพติดตัว ด้วยกลิ่นน้ำอบไทยสูตรกระดังงาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนมาถึงช่วงสมัยวิทยาลัยครูสวนดุสิต ผศ.โสภาพรรณ อมตะเดชะ หนึ่งในอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเครื่องหอมและน้ำอบไทย ได้สืบทอดเคล็ดลับวิชาการผลิตน้ำอบไทยในรุ่นต่อมาอย่างถ่องแท้ และได้ส่งต่อองค์ความรู้ให้ลูกศิษย์อีกหลายรุ่น รวมถึงการผลิตจำหน่ายออกนอกรั้วมหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรก ทำให้น้ำอบไทยสวนดุสิตเป็นที่รู้จักกันมากยิ่งขึ้น รังสรรค์และพัฒนาสูตรน้ำอบไทยกลิ่นใหม่ขึ้นมา ให้มีกลิ่นหอมแบบอ่อนๆ ที่ปรุงขึ้นจาก “ดอกไม้รวมนานาพันธุ์” อาทิ กุหลาบ มะลิ ดอกแก้ว ราตรี ดอกส้ม ชะลูด ใบเตย หญ้าฝรั่น แก่นจันทร์เทศ พิมเสน กำยาน ชะมดเช็ด ผิวมะกรูด โดยยังคงกลิ่นของดอกกระดังงาตามสูตรดั้งเดิมไว้เป็นหลัก ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โดย ผศ.กาญจนา เฟื่องศรี หนึ่งในอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเครื่องหอมและน้ำอบไทย ได้สืบสานองค์ความรู้ต่อในรุ่นปัจจุบัน โดยรักษากระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน น้ำอบไทยสวนดุสิต 1 ขวด มีขบวนการผลิตซับซ้อนและปราณีตตามสมัยโบราณ ให้ความสำคัญกับขั้นตอนการผลิต ควรใส่อะไรก่อน-หลัง มีทั้งอบเทียน ร่ำกำยาน จึงได้กลิ่นหอมติดทนนาน ในแบบฉบับสวนดุสิต กระบวนการผลิตที่พิถีพิถันนี้ดำเนินการโดย นำโดย ผศ.กาญจนา เฟื่องศรี บุคลากรและนักศึกษาในสาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี ภายใต้การกำกับดูแลจากสถาบันภาษา ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยสวนดุสิต และ สำนักกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต #คหกรรม #สวนดุสิต #คหกรรมศาสตร์ #คหกรรมอินเตอร์ #โรงเรียนการเรือน #คหกรรมสวนดุสิต #มหาวิทยาลัยสวนดุสิต #คหกรรมศาสตร์สวนดุสิต #คหกรรมสวนดุสิตสุพรรณบุรี #มหาวิทยาลัยสวนดุสิตวิทยาเขตสุพรรณบุรี

สาขาวิชาคหกรรมศาตร์ ได้รับเกียรติจัดแสดงผลงานในงานดอกไม้ปาร์คนายเลิศ 𝗙𝗟𝗢𝗪𝗘𝗥𝗦 𝗫 𝗘𝗫𝗛𝗜𝗕𝗜𝗧𝗜𝗢𝗡 ในโซน 𝗖𝗼𝗻𝘁𝗲𝗺𝗽𝗼𝗿𝗮𝗿𝘆 𝗧𝗵𝗮𝗶 𝗠𝗮𝘀𝘁𝗲𝗿𝗽𝗶𝗲𝗰𝗲𝘀 งานมีในระหว่างวันที่ 28-31 มีนาคม 2567 ณ บ้านปาร์คนายเลิศ #nailertflowershow #nailertflowershow2024 #nailertflowerandgardenartfair #งานดอกไม้ปาร์คนายเลิศ #งานดอกไม้นายเลิศปาร์คครั้งที่35 #งานดอกไม้ปาร์ค #คหกรรม #สวนดุสิต #คหกรรมศาสตร์ #คหกรรมอินเตอร์ #โรงเรียนการเรือน #คหกรรมสวนดุสิต #มหาวิทยาลัยสวนดุสิต #คหกรรมศาสตร์สวนดุสิต #คหกรรมสวนดุสิตสุพรรณบุรี #มหาวิทยาลัยสวนดุสิตวิทยาเขตสุพรรณบุรี

#น้ำอบไทยสวนดุสิต #ดินสอพองอบร่ำ #บุหงา เครื่องหอมในประเพณีสงกรานต์ ท่านใดสนใจสามารถสอบถามรายละเอียด ได้ที่สำนักกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร.02-244-5370-5 จากภูมิปัญญาอันล้ำค่าของบรรพบุรุษไทย ส่งผลให้น้ำอบไทยมากคุณค่ายิ่งกว่าความหอม โดยเคียงคู่กับหน้าร้อน เป็นการดับร้อนแบบไทยๆ ที่อยู่คู่ประเพณีวัฒนธรรมไทยแต่โบราณกระทั่งถึงปัจจุบัน หลากหลายตำรับน้ำอบไทย หนึ่งในนั้นคือ น้ำอบไทยสวนดุสิต น้ำอบไทยสวนดุสิตสืบทอดสูตรเฉพาะมาจาก อาจารย์ ม.ร.ว. สอิ้งมาศ นวรัตน์ ผู้สืบสานความรู้การผลิตต่อจาก อาจารย์เยื้อน ภาณุทัต ที่มีสายเชื่อมโยงความรู้อย่างถ่องแท้จากในวังหลวง ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของสวนดุสิตในสมัยที่ยังเป็นโรงเรียนการเรือน และเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้การทำน้ำอบไทย “กลิ่นกระดังงา” ที่เป็นสูตรเฉพาะให้กับนักเรียนในสมัยนั้นสามารถผลิตใช้ และเป็นวิชาชีพติดตัว ด้วยกลิ่นน้ำอบไทยสูตรกระดังงาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนมาถึงช่วงสมัยวิทยาลัยครูสวนดุสิต ผศ.โสภาพรรณ อมตะเดชะ หนึ่งในอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเครื่องหอมและน้ำอบไทย ได้สืบทอดเคล็ดลับวิชาการผลิตน้ำอบไทยในรุ่นต่อมาอย่างถ่องแท้ และได้ส่งต่อองค์ความรู้ให้ลูกศิษย์อีกหลายรุ่น รวมถึงการผลิตจำหน่ายออกนอกรั้วมหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรก ทำให้น้ำอบไทยสวนดุสิตเป็นที่รู้จักกันมากยิ่งขึ้น รังสรรค์และพัฒนาสูตรน้ำอบไทยกลิ่นใหม่ขึ้นมา ให้มีกลิ่นหอมแบบอ่อนๆ ที่ปรุงขึ้นจาก “ดอกไม้รวมนานาพันธุ์” อาทิ กุหลาบ มะลิ ดอกแก้ว ราตรี ดอกส้ม ชะลูด ใบเตย หญ้าฝรั่น แก่นจันทร์เทศ พิมเสน กำยาน ชะมดเช็ด ผิวมะกรูด โดยยังคงกลิ่นของดอกกระดังงาตามสูตรดั้งเดิมไว้เป็นหลัก ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โดย ผศ.กาญจนา เฟื่องศรี หนึ่งในอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเครื่องหอมและน้ำอบไทย ได้สืบสานองค์ความรู้ต่อในรุ่นปัจจุบัน โดยรักษากระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน น้ำอบไทยสวนดุสิต 1 ขวด มีขบวนการผลิตซับซ้อนและปราณีตตามสมัยโบราณ ให้ความสำคัญกับขั้นตอนการผลิต ควรใส่อะไรก่อน-หลัง มีทั้งอบเทียน ร่ำกำยาน จึงได้กลิ่นหอมติดทนนาน ในแบบฉบับสวนดุสิต กระบวนการผลิตที่พิถีพิถันนี้ดำเนินการโดย นำโดย ผศ.กาญจนา เฟื่องศรี บุคลากรและนักศึกษาในสาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี ภายใต้การกำกับดูแลจากสถาบันภาษา ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยสวนดุสิต และ สำนักกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต #คหกรรม #สวนดุสิต #คหกรรมศาสตร์ #คหกรรมอินเตอร์ #โรงเรียนการเรือน #คหกรรมสวนดุสิต #มหาวิทยาลัยสวนดุสิต #คหกรรมศาสตร์สวนดุสิต #คหกรรมสวนดุสิตสุพรรณบุรี #มหาวิทยาลัยสวนดุสิตวิทยาเขตสุพรรณบุรี

#น้ำอบไทยสวนดุสิต #ดินสอพองอบร่ำ #บุหงา เครื่องหอมในประเพณีสงกรานต์ ท่านใดสนใจสามารถสอบถามรายละเอียด ได้ที่สำนักกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร.02-244-5370-5 จากภูมิปัญญาอันล้ำค่าของบรรพบุรุษไทย ส่งผลให้น้ำอบไทยมากคุณค่ายิ่งกว่าความหอม โดยเคียงคู่กับหน้าร้อน เป็นการดับร้อนแบบไทยๆ ที่อยู่คู่ประเพณีวัฒนธรรมไทยแต่โบราณกระทั่งถึงปัจจุบัน หลากหลายตำรับน้ำอบไทย หนึ่งในนั้นคือ น้ำอบไทยสวนดุสิต น้ำอบไทยสวนดุสิตสืบทอดสูตรเฉพาะมาจาก อาจารย์ ม.ร.ว. สอิ้งมาศ นวรัตน์ ผู้สืบสานความรู้การผลิตต่อจาก อาจารย์เยื้อน ภาณุทัต ที่มีสายเชื่อมโยงความรู้อย่างถ่องแท้จากในวังหลวง ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของสวนดุสิตในสมัยที่ยังเป็นโรงเรียนการเรือน และเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้การทำน้ำอบไทย “กลิ่นกระดังงา” ที่เป็นสูตรเฉพาะให้กับนักเรียนในสมัยนั้นสามารถผลิตใช้ และเป็นวิชาชีพติดตัว ด้วยกลิ่นน้ำอบไทยสูตรกระดังงาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนมาถึงช่วงสมัยวิทยาลัยครูสวนดุสิต ผศ.โสภาพรรณ อมตะเดชะ หนึ่งในอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเครื่องหอมและน้ำอบไทย ได้สืบทอดเคล็ดลับวิชาการผลิตน้ำอบไทยในรุ่นต่อมาอย่างถ่องแท้ และได้ส่งต่อองค์ความรู้ให้ลูกศิษย์อีกหลายรุ่น รวมถึงการผลิตจำหน่ายออกนอกรั้วมหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรก ทำให้น้ำอบไทยสวนดุสิตเป็นที่รู้จักกันมากยิ่งขึ้น รังสรรค์และพัฒนาสูตรน้ำอบไทยกลิ่นใหม่ขึ้นมา ให้มีกลิ่นหอมแบบอ่อนๆ ที่ปรุงขึ้นจาก “ดอกไม้รวมนานาพันธุ์” อาทิ กุหลาบ มะลิ ดอกแก้ว ราตรี ดอกส้ม ชะลูด ใบเตย หญ้าฝรั่น แก่นจันทร์เทศ พิมเสน กำยาน ชะมดเช็ด ผิวมะกรูด โดยยังคงกลิ่นของดอกกระดังงาตามสูตรดั้งเดิมไว้เป็นหลัก ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โดย ผศ.กาญจนา เฟื่องศรี หนึ่งในอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเครื่องหอมและน้ำอบไทย ได้สืบสานองค์ความรู้ต่อในรุ่นปัจจุบัน โดยรักษากระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน น้ำอบไทยสวนดุสิต 1 ขวด มีขบวนการผลิตซับซ้อนและปราณีตตามสมัยโบราณ ให้ความสำคัญกับขั้นตอนการผลิต ควรใส่อะไรก่อน-หลัง มีทั้งอบเทียน ร่ำกำยาน จึงได้กลิ่นหอมติดทนนาน ในแบบฉบับสวนดุสิต กระบวนการผลิตที่พิถีพิถันนี้ดำเนินการโดยบุคลากรและนักศึกษาในสาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี ภายใต้การกำกับดูแลจากสถาบันภาษา ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยสวนดุสิต และ สำนักกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต #คหกรรม #สวนดุสิต #คหกรรมศาสตร์ #คหกรรมอินเตอร์ #โรงเรียนการเรือน #คหกรรมสวนดุสิต #มหาวิทยาลัยสวนดุสิต #คหกรรมศาสตร์สวนดุสิต #คหกรรมสวนดุสิตสุพรรณบุรี #มหาวิทยาลัยสวนดุสิตวิทยาเขตสุพรรณบุรี

#อาจารย์คหกรรมสวนดุสิตสุพรรณบุรีเป็นคณะกรรมการตัดสินการแข่งขัน อาจารย์หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี ได้รับเชิญจากคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เป็นคณะกรรมการตัดสินการประกวดพานรดน้ำ จัดโดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ในวันที่ 13 เมษายน 2567 ณ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร #พานรับน้ำ ถือเป็นงานศิลปประดิษฐ์ งานดอกไม้ ใบตอง รูปแบบหนึ่งที่นิยมใช้ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อรองรับน้ำในพิธีการต่างๆ โดยมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน เช่น พานรับน้ำพระพุทธมนต์ พานรับน้ำสังข์ พานรับน้ำ เป็นต้น ในงานประเพณีพิธีกรรมต่างๆ เช่น ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีแต่งงาน ประเพณีงานศพ พิธีมุทิตาจิต เป็นต้น ลักษณะของพานรับน้ำที่ดีในขึ้นตอนการออกแบบและประดิษฐ์ต้องคำนึงถึงในหลายปัจจัยด้วยกัน อาทิ 1.ลักษณะการนำไปใช้งาน มีการรดน้ำในจำนวนมากหรือไม่ กรณีถ้ามีการรดน้ำในปริมาณมากตัวพานต้องสามารถถ่ายน้ำออกได้ หรือใช้ขนาดพานที่สามารถรองรับน้ำได้ในจำนวนมาก 2.การเลือกใช้วัสดุ ในการประดิษฐ์ที่มีความเหมาะสมสามารถรองรับน้ำได้ดี วัสดุที่ใช้ในปัจจุบันมีหลายลักษณะ เช่น ฟลอรัลโฟม ขี้เลื่อย ทราย โดยใช้โฟมเป็นโครงยึดด้านนอกจะทำให้สามารถดูดซับน้ำได้และสะดวกต่อการประดิษฐ์ 3.ความเหมาะสมกับโอกาสการนำไปใช้งาน ขนาดและสัดส่วนที่เหมาะสมไม่สูงจนเกินไปเหมาะกับการรองรับน้ำ และไม่เป็นอุปสรรค์ต่อผู้ใช้งาน การออกแบบการเลือกใช้สี และรูปแบบที่มีความสัมพันธ์กับเจ้าของงาน จะช่วยสร้างให้ผลงานมีความโดดเด่นและสัมพันธ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับงานนั้นๆ ในโอกาสนี้ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล และ ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้เข้าแข่งขันทุกทีม นำประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกฝนและแข่งขันครั้งนี้ นำไปพัฒนาตนเอง และสร้างมูลค่าเพิ่มในวิชาชีพต่อไปในอนาคต ขออนุญาตนำภาพผู้เข้าประกวดและผลงานของผู้เข้าแข่งขันทุกทีมครับ

#นักศึกษาได้รับเชิญรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่2การประกวดพานรดน้ำ นักศึกษาหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี ได้รับเชิญรางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 การประกวดพานรดน้ำ กลุ่มสถาบันการศึกษา ในงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2567 จัดโดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ในวันที่ 13 เมษายน 2567 ณ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร #คหกรรม #สวนดุสิต #คหกรรมศาสตร์ #คหกรรมอินเตอร์ #โรงเรียนการเรือน #คหกรรมสวนดุสิต #มหาวิทยาลัยสวนดุสิต #คหกรรมศาสตร์สวนดุสิต #คหกรรมสวนดุสิตสุพรรณบุรี #มหาวิทยาลัยสวนดุสิตวิทยาเขตสุพรรณบุรี

การประดิษฐ์พานไหว้ครู #พานไหว้ครู #พานไหว้ครูสวยงาม วิธีการทำอย่างละเอียดรับชมในช่องยูทูปครับ #คหกรรม #สวนดุสิต #คหกรรมศาสตร์ #คหกรรมอินเตอร์ #โรงเรียนการเรือน #คหกรรมสวนดุสิต #มหาวิทยาลัยสวนดุสิต #คหกรรมศาสตร์สวนดุสิต #คหกรรมสวนดุสิตสุพรรณบุรี #มหาวิทยาลัยสวนดุสิตวิทยาเขตสุพรรณบุรี